NRFซื้อ3ฟู๊ดเทค169ล. ปูทางกำไรกระโดดแรง

18 พฤษภาคม 2564

ทันหุ้น-NRF ไฟเขียวลงทุน 3 โครงการ มูลค่า 169.8 ล้านบาท ต่อยอดธุรกิจ plant-based และขยายสินค้า e-commerce บน Amazon มากยิ่งขึ้น ผูกพันธมิตรสตาร์ทอัพมาแรง ปูทางผลงานโตกระโดด ชี้ไตรมาส 1/64 กำไรโต 50% ปี 64 โตพุ่ง ตลาดสหรัฐหนุนแรง ด้านโรงงานแห่งใหม่ของ Plant & Bean เริ่มการผลิตไตรมาสนี้

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า แจ้งตลาดหลักรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าลงทุน 3 โครงการ โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 169.8 ล้านบาท ได้แก่ โครงการที่ลงทุนประกอบการลงทุนในบริษัท Wicked Foods, Inc ซึ่งบริษัท โน้ฟ ฟูดส์ จำกัด หรือ Nove ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีความประสงค์ ที่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท Wicked มูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 47.0 ล้านบาท โดยคาดว่ามีสัดส่วนการถือหุ้น 1.6% คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2564

*รุกplant-basedเต็มสูบ

ทั้งนี้ Wicked Foods เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ดำเนินธุรกิจขายอาหารและสินค้าโปรตีนจากพืช (plant-based) อย่างครบวงจร ภายใต้แบรน์สินค้า Wicked Foods และ Wicked Kitchen โดยมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย อาทิ อาหาร plant-based สำเร็จรูปพิซซ่า ซอส อาหารแช่แข็ง ปัจจุบัน Wicked วางจำหน่ายสินค้าในร้านค้า Tesco ในสหราชอาณาจักร และมีแผนจะขยายธุรกิจไปประเทศสหรัฐ ยุโรป และประเทศอื่นๆ ในอนาคต การเข้าลงทุนในบริษัทดังกล่าว เป็นการต่อยอดกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของบริษัทช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจอาหารโปรตีนจากพืช

ขณะที่การลงทุนโครงการที่ 2 ได้แก่ ลงทุนในบริษัท KonsciousFoods, Inc โดยบริษัท โน้ฟ ฟูดส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จะเข้าลงทุน โดยมีมูลค่า 1.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐประมาณ 31.3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนในการถือหุ้น 20.3% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัท Konscious ซึ่งเป็นบริษัท สตาร์ทอัพในรัฐ Delaware ประเทศสหรัฐ ถูกจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2563 และกำลังอยู่ในช่วงระดมทุนในรอบผู้ก่อตั้ง โดยบริษัทมีความประสงค์จะเข้าร่วมระดมทุนในรอบดังกล่าว คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2564

โดยบริษัท Konscious Foods เป็นบริษัท สตาร์ทอัพที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจขายอาหารและสินค้าโปรตีนจากพืช (plant-based) โดยจะมุ่งเน้นสินค้าประเภทอาหารทะเล ล (plant-based seafood) ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกอื่นๆ ให้กับผู้บริโภค และกลุ่มลูกค้่า plant-basedซึ่งมักจะมุ่งเน้นไปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อวัวที่ทำมาจากโปรตีนพืช เป็นต้น โดยบริษัท Konsciousจะมุ่งเน้นการขายสินค้า plant-based seafood ในทวีปอเมริกาเหนือ และมีแผนที่จะเพิ่มหมวดสินค้าไปยังโปรตีนจากพืชประเภทอื่นๆ และจะเพิ่มยอดขายในทวีปอื่นๆ ต่อไปในอนาคต

ส่วนการลงทุนที่ 3 ได้แก่การซื้อทรัพย์สินภายใต้แบรนด์ SOL Trading คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2564 โดย Boosted NRF Corporation ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีความประสงค์จะซื้อทรัพย์สินทางปัญญา เครื่องหมายการค้าองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้แบรนด์ของกลุ่ม SOL Trading เช่น The Cocoa Trader, Fossil, Power Caribbean Cacao, and Aspen Naturals ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ด้านอาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำที่ขายอยู่บนแพลตฟอร์ม Amazon.com สำหรับขนาดเงินลงทุนอยู่ที่ 2.92 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 91.5 ล้านบาท

ประโยชน์จากการลงทุนดังกล่าวเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ e-commerce ของบริษัทและเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมไปสู่ Branded e-commerce บนAmazon.com ที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่ม Ethnic Food, Plant-Based Food,Functional Product ซึ่งบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันอยู่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องมียอดขายที่ดีในระบบ E-Commerce ของ Amazon.com และสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง และยังทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะขายสินค้าที่บริษัทเป็นผู้ผลิตอยู่แล้วได้อีกด้วย (Cross-sellingopportunities) ทั้งนี้การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่บริษัท Boosted NRF เสนอขายให้กับลูกค้าบน Amazon.comมากยิ่งขึ้น

*ปี64ผลงานเติบโตแรง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2564บริษัทกําไรสุทธิจากการดําเนินงานปกติ(NormalizedNetProfit) ในไตรมาส1ปี2564บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 69ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23 ล้านบาทหรือ 50 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 472 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 207 ล้านบาทหรือ 78.1% จากไตรมาส1ปี2563โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้อย่างมีนัยสำคัญจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจอาหารไทยและอาหารท้องถิ่นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์เส้นบุกจากกลุ่มลูกค้ารับจ้างผลิตรายเดิมในทวีปอเมริกาเหนือรวมไปถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้จากบริษัท BOOSTED-NRFCorporation

ทั้งนี้คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ทำรายได้ให้กับทางบริษัทกว่า50% ของรายได้จากการดำเนินงาน เริ่มมีการฟื้นตัว จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คำสั่งซื้อที่ถูกเลื่อนออกไปจากปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งทั้งหมดจะถูกจัดส่งในเดือนเมษายน รวมไปถึง โรงงานแห่งใหม่ของPlant & Bean คาดว่าจะเริ่มการผลิตในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ด้วยเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งที่เริ่มคลี่คลายลง และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ของ Plant & Bean ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยหนุนให้บริษัท เติบโตต่อไปในปี 2564

Source: https://www.thunhoon.com/article/240022