NRF ลดสัดส่วนการเข้าซื้อหุ้น GTH เหลือ 49% หลังเจรจากับผู้ขายเดิมอีกครั้ง ตอกย้ำความคืบหน้าธุรกิจกัญชงครบวงจร

12 มีนาคม 2564

เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (11 มีนาคม) บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับความคืบหน้าการลงทุนในบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจกัญชงครบวงจร โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ NRF มีมติเข้าถือหุ้น 49% ใน GTH

ก่อนหน้านี้ NRF จะเข้าซื้อหุ้น 100% ใน GTH ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 128.4 ล้านบาท แต่ได้มีการเจรจาเพิ่มเติมกับผู้ขายคือ บริษัท พีเอ็ม 80 จำกัด (ซึ่งถือหุ้น GTH 51%) แต่บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการทำรายการดังกล่าวได้ NRF จึงจะเข้าทำรายการการลงทุนใน GTH ในสัดส่วน 49% กับผู้ถือหุ้นรายบุคคลจำนวน 25 ราย โดยจะชำระราคาโดยการออกหุ้นสามัญของบริษัทในจำนวนไม่เกิน 7,643,892 หุ้น (Share swap) ในราคาหุ้นละ 8.23 บาท ซึ่งจะมีมูลค่าโดยประมาณ 62.9 ล้านบาท โดย Dilution Effect จะประมาณ 0.6%

โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องได้รับความเห็นชอบจากมติผู้ถือหุ้นซึ่งต้องไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของผู้มีสิทธิ์และมาออกเสียงในวันที่ 22 เมษายน 2564

กระทบอย่างไร:
วันนี้ (12 มีนาคม) ราคาหุ้น NRF ปรับตัวลง 0.54%DoD สู่ระดับ 9.20 บาท ตามทิศทางตลาดหุ้นไทย (SET) ที่ปรับตัวลง 6.94 จุด หรือลดลง 0.44%DoD สู่ระดับ 1,568.19 จุด

มุมมองระยะสั้น:
ที่ผ่านมา NRF มีความสนใจในธุรกิจกัญชงทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าความเชี่ยวชาญของ GTH จะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาและนำผลิตภัณฑ์จากกัญชงมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทได้ ทั้งกลุ่มสินค้า Ethnic, Plant-based และ Functional Products โดย NRF คาดว่าจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกในธุรกิจกัญชงใน 4Q64

สำหรับแนวโน้มกำไร 1Q64 ของ NRF SCBS คาดว่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากการรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการที่ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมภายใต้แบรนด์ Prime Labs ซึ่งที่ผ่านมาสินค้า Prime Labs ได้รับกระแสตอบรับที่ดีบนแพลตฟอร์ม Amazon นอกจากนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจปัจจุบันและขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะสินค้าของ NRF ปัจจุบัน Prime Labs มีฐานลูกค้าบนแพลตฟอร์ม Amazon กว่า 2 แสนราย

มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าในปี 2564-2565 แนวโน้มกำไรของ NRF จะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุน 5 ประการ 1. การขยายกำลังการผลิตกลุ่ม Ethnic Food เพิ่มขึ้น 95%YoY ในปี 2564 2. รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เส้นบุกและน้ำเต้าหู้ตราชินโป 3. การรับรู้รายได้โรงงานผลิตอาหารโปรตีนแห่งใหม่ในปี 2565 4. รายได้เพิ่มเติมจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และ 5. ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (Plant & Bean) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช

ในระยะยาว NRF ยังมีแนวโน้มเติบโตตามกระแสเมกะเทรนด์การบริโภคอาหารโปรตีนจากพืชที่เริ่มได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ดี ธุรกิจนี้ยังมีความเสี่ยงจากการยอมรับของผู้บริโภคต่ออาหารโปรตีนจากพืชที่คาดการณ์ได้ยาก และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านอาหารในแต่ละประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม:
บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ประกอบธุรกิจกัญชงครบวงจร อาทิ การนำเข้าเมล็ดกัญชงสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ พัฒนาการปลูกและสกัดกัญชง ตลอดจนการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ผสมรสชาติกัญชงภายใต้แบรนด์ของ GTH อีกทั้งบริษัทยังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ อาทิ Dentiste, Smooth E, เซียงเพียวอิ๊ว ในปี 2563 GTH รายงานรายได้ 28 ล้านบาท และขาดทุน 6.5 ล้านบาท

Source: https://thestandard.co/market-focus-nrf/