NRF มั่นใจ หลังตลาดเอเชียฟู้ดใน UK โต 11.3% ส่งผลดีให้ Bamboo Mart

17 March 2023

หลัง NRF ประกาศกลยุทธ์ในปีนี้ที่จะกระโดดเข้ามาแข่งขันในธุรกิจร้านค้าปลีก พร้อมต่อยอดสู่ Omni-Channel ได้รับสัญญาณที่ดีขึ้นจากภาพรวมของรายได้ของร้านค้าปลีกใน UK มีการเติบโตอยู่ที่ 11.3% ทางด้านร้านค้าออนไลน์ส่งผลรายได้เติบโตราว 12.46% จากอานิสงส์ของโรคระบาด ภาคการท่องเที่ยวที่มีภาพรวมที่ดีขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการขยายตัวของผู้บริโภค

แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่เราจะนำมาเป็นกลยุทธ์ในปีนี้ นอกจากเราจะมีฐานส่งออกกว่า 30 ประเทศ เรายังมีจุดแข็งทางด้านอาหารท้องถิ่น(Ethnic food) โดยกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้คือการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการ ทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยเฉพาะร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเชียมีมูลค่า 190,800,000 ดอลลาห์สหรัฐ ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 11.3% ต่อปี ซึ่งเราได้วางแผนขยายสาขาของร้านแบมบู มาร์ท (Bamboo Mart) ตามเมืองหลวงที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของ UK ซึ่งจะประกอบไปด้วยกลุ่ม International Community ที่เป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ-สังคม สำหรับช่องทางออนไลน์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มลูกค้ายังคงใช้งาน เราจึงต้องพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย สอดรับกับขยายตัวของร้านค้าออนไลน์ที่มีสัดส่วนถึง 12.6%และมีแนวโน้มเติบโตถึง 12.46% การพัฒนา ร้านค้าออนไลน์นี้ยังนับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของเราอีกด้วยให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงช้อปออนไลน์

“การต่อยอดสู่ Omni-channel นับก้าวสำคัญของ NRF ที่จะกระโดดเข้าไปอยู่ในกระดานใหม่อย่างธุรกิจค้าปลีก โดยจะมุ่งพัฒนาเพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภค เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งกลุ่มคนเอเชียที่เป็น นักศึกษา แรงงานทักษะสูง ที่อาศัยอยู่ใน UK มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สอดรับกับอัตราของผู้บริโภค ที่ชื่นชอบการซื้ออาหารท้องถิ่นกลับไปทานที่บ้านราว 90% เหตุเพราะการเปลี่ยนแปลงทาง พฤติกรรม ผู้บริโภคที่หันมาสนใจในการทำอาหารด้วยตัวเองมากขึ้น บวกกับสื่อการเรียนรู้ทางออนไลน์ ที่ทำให้ทุกคน สามารถประกอบอาหารเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยหลังจากเราได้มีการประกาศกลยุทธ์ทำให้เราได้เร่งพัฒนาและดำเนินงาน โดยเราตั้งเป้าว่า Bamboo Mart แห่งแรกจะเริ่มขึ้นที่ UK ในช่วงไตรมาส 2/66” นายแดน กล่าวปิดท้าย

แม้สถานการณ์ SVB จะแผ่ขยายอิทธิพลมาถึงสหราชอาณาจักร แต่สำหรับธุรกิจร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเชีย นับเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มี liquidity สูง นั่นคือการซื้อมา ขายไป ในขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี มี liquidity ที่ต่ำ จึงส่งผลกระทบน้อย อีกทั้งจากการคาดการณ์ของอุตสาหกรรม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเชียจะมีสัดส่วนประมาณ 42%ของมูลค่าตลาดค้าปลีกทั้งหมดในสหราชอาณาจักรจนถึงปี 2026