NRF เปิดกระโดด 9% รับข่าวขึ้นชั้นร่วมทุน “ปตท.” ลุยโรงงานโปรตีนจากพืช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF วันที่ 21 พ.ค.2564 เปิดตลาดที่ระดับ 10.50 บาท ล่าสุด ณ เวลา 10.09 น. อยู่ที่ระดับ 10.50 บาท ปรับตัวขึ้น 0.90 บาท หรือ 9.38% สูงสุดที่ระดับ 11 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 325.48 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น NRF ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญวันนี้หลังจากที่บริษัทได้ประกาศการร่วมลงทุนกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4/2565
ทั้งนี้ นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย PTT และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. และ NRF มีมติเห็นชอบจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (ปตท. ถือหุ้น 100%) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด (NRF ถือหุ้น 100%)
โดยสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่ากันบริษัทละ 50% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร ตั้งเป้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จในไตรมาส 3/2564 ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมจัดตั้งโรงงานผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนำเข้าชั้นสูงในไทย ด้วยกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี รวมไปถึงการพัฒนาร้านค้าต้นแบบ คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2565
โดยผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based Protein) ผลิตจากพืชที่ให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว เห็ด สาหร่าย อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต โดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการแปรรูปสมัยใหม่มาพัฒนารสชาติ รูปลักษณ์ กลิ่น และผิวสัมผัสให้ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการรองรับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของ NRF และถือเป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารโปรตีนจากพืช ปัจจุบัน NRF เตรียมขยายกำลังการผลิตเพื่อพร้อมรองรับการผลิตอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดการประหยัดต่อหน่วย ลดต้นทุนการผลิตต่อชิ้น เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น
ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารโปรตีนจากพืชในไทยมีโอกาสสร้างอัตรากำไรที่ดีขึ้นและมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดจากเดิมที่ 2-10% ไปสู่ระดับ 10-35% และคาดว่ามูลค่าตลาดอาจแตะระดับ 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 2567 ซึ่งเชื่อว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารโปรตีนทางเลือกในระดับโลก
ด้าน นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนเพื่อรุกตลาดกระแสสุขภาพและความยั่งยืนด้านอาหารของโลกในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นไปสู่ความร่วมมือการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับโปรตีนชนิดใหม่ๆ
โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านอาหารในอนาคต ทดแทนการทำปศุสัตว์ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำการพัฒนาธุรกิจนี้ของภูมิภาคร่วมกัน ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรกรรมไทย โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนการสร้าง New S-Curve ของประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
“การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นการรองรับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของ NRF และถือเป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารโปรตีนจากพืช ปัจจุบัน NRF เตรียมขยายกำลังการผลิตเพื่อพร้อมรองรับการผลิตอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดการประหยัดต่อหน่วย ลดต้นทุนการผลิตต่อชิ้น เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น” นายแดน กล่าว